ปวดคอ

 คอเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานมากที่สุดอวัยวะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการก้ม เงย หันซ้าย หันขวา เมื่อคอถูกใช้งานมาก ก็ย่อมเกิดการตึงของกล้ามเนื้อรอบลำคอ จึงทำให้มีอาการปวดอาการปวดเมื่อยตรงบริเวณกล้ามเนื้อคอสาเหุตหนึ่งที่ทำให้เป็นเช่นนี้ ก็เพราะเกิดจากการนั่งก้มหน้าทำงานตลอดทั้งวัน และการใช้ความคิดมากจนเกินไป หรืออิริยาบถที่ผิดจังหวะก็ทำให้กล้ามเนื้อที่คอเกิดอาการบาดเจ็บได้เช่นกัน อาการตกหมอนที่พบบ่อย สาเหตุของอาการก็คือ การเคลื่อนของกระดูกข้อต่อคอเพียงเล็กน้อย หรือเนื้อเยื้อบริเวณเอ็นรอบข้อต่อคอ หดหรือยืดตัวเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดอาการเคล็ดภายในส่วนของเนื้อเยื้อ ซึ่งทำให้คอเอียงหรือหันศีรษะไปทางหนึ่งทางใดไม่ได้ อาการเหล่านี้จะหายไปเองในเวลา 2-3 วัน      
                    

สาเหตุของอาการปวดคอ
 ก่อนที่จะทำการรักษาต้องทราบสาเหตุของอาการปวดคอก่อนว่าเกิดจากอะไร เพื่อที่จะได้ทำการบำบัดรักษาได้ถูกวิธี
1. ความเครียด
เรื่องความเครียดมักเป็นสาเหตุใหญ่ของการไม่สบายทั้งร่างกาย การที่ร่างกายมีความเครียดนั้นผิดปกติ จึงเกิดอาการปวดศีรษะและต้นคอได้ง่าย
วิธีแก้ 
-เราต้องหาสาเหตุที่เราประสบอยู่ในปัจจุบันนี้ว่าคืออะไร มีอะไรที่ทำให้จิตใจเราไม่สบาย  สิ่งที่ดีที่สุด นั้นคือการปล่อยวางและการที่จิตให้เป็นสมาธิและอีกอย่างคือการออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้ผลดีทั้งร่างกายและจิตใจด้วย
-การนวดผ่อนคลาย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
2.อิริยาบถในชีวิตประจำวันที่ผิดลักษณะ
การแสดงท่าทางต่างๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับบุคลิกลักษณะของแต่ละคน บางคนชอบยืนหลังงอหรือก้มหน้าเขียนหนังสือต่ำเกินไปทำให้กล้ามเนื้อล้าเกิดอาการปวดขึ้นมาได้ หรือบางครั้ง การนอนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ นอนในท่าที่คอพับไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดจากหมอนสูงเกินไป
วิธีแก้ 
- ต้องปรับบุคลิกการนั่งทำงานหรือการยืนใหม่ คนที่ชอบก้มหน้านั่งทำงานนั้นก็ควรปรับปรุงโดยแก้ไขให้หลังตรงๆ
- หมั่นเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานบ้างหรือทุกๆ 1-1.30 ชั่วโมง เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อการยืนหรือเดินก็ควรทำให้หลังตรงอยู่เสมอ
- ควรใช้หมอนที่สูงพอดีกับคอของเราไม่ควรสูงหรือตั้งเกินไป การหนุนหมอนที่ถูกสุขลักษณะ ควรหนุนที่ก้านคอมากกว่าที่ท้ายทอย

3.ข้อเสื่อมและข้ออักเสบ

ภาวะข้อเสื่อมนั้น  เป็นภาวะตามอายุของร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกเพศทุกวัย บางครั้งอาจไม่เกิดอาการปวดแต่อย่างไร แต่อาจตรวจพบได้ด้วยการเอ็กซเรย์
สาเหตุของข้อเสื่อมนอกเหนือจากอายุไขที่ล่วงเลยไปแล้ว ยังเกิดจากการทำงานมากเกินไป ซึ่งสามารถทำให้กระดูกคอเสื่อมได้เร็วกว่าวัย การเสื่อมของกระดูกคอนั้น เกิดได้ตรงข้อต่อของหมอนรองกระดูกคอทั้งด้านหน้าและด้านหลัง การทีมีปุ่มกระดูกงอกออกมาที่ขอบๆ ของข้อต่อนั้นอาจจะไปกดทับปลายประสาทที่ออกมาจากช่องระหว่างกระดูกหรือการเสื่อมของหมอนรองกระดูกที่เคลื่อนไปกดทับไขสันหลังหรือเส้นประสาท 
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอบริเวณตั้งแต่ท้ายทอยหัวไหล่และอาจลามมาถึงแขนนั้นควรปรึกษาแพทย์
4.อุบัติเหตุ
การเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันมักก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ การเคลื่อนไหวมากๆ หรือรุนแรงมากกว่าปกติเป็นสาเหตุทำให้คอเคล็ดได้มักเกิดจากเอ็นหรือกล้ามเนื้อคอถูกยึดจนกล้ามเนื้อคอฉีกขาด เกิดอาการปวดและทำให้กล้ามเนื้อกดตัวไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวคอไม่ถนัด
ส่วนการเกิดอุบัติเหตุขั้นรุนแรง เช่น อุบัติเหตุจากรถยนต์หรือตกจากที่สูง มักจะมีอาการรุนแรงและมีการบาดเจ็บส่วนอื่นด้วย แต่กระดูกคอเป็นอาการที่สำคัญที่สุด ถ้าเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
การเคลื่อนย้ายที่ถูกวิธี ไม่ควรพับคอผู้บาดเจ็บหรือห้ามทำให้คออยู่ในลักษณะก้มศีรษะโดยเด็ดขาด ควรหาไม้กระดานรองรับส่วนศีรษะคอ ให้อยู่ในท่านอนราบตรงๆเพื่อป้องกันกระดูกคอหักไปทับไขสันหลังทำให้เกิดอัมพาตของแขนขาได้ทันที่
5. ปวดเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อ
การปวดเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อเป็นอาการปวดอย่างหนึ่งที่พบบ่อยไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยสูงอายุ ซึ่งอาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัญหา อาการจะมีการปวดในกล้ามเนื้อ และปวดมากขึ้นเมื่อถูกใช้งาน อาจจะมีการเจ็บเป็นจุดๆ บริเวณนั้นจะเจ็บมากขึ้นหรือปวดร้าวได้ ขณะเดียวกันยังพบพังผืดเป็นก้อนหรือแถบแข็งบริเวณที่กดเจ็บนั้น

การบำบัดรักษาอาการปวดคอด้วยตนเอง
1.พักผ่อนให้มากๆ  ลดการใช้คอชั่วคราวหรือพยายามนอนราบให้ศีรษะกับลำคอเสมอกัน  ซึ่งจะทำให้คอไม่ต้องแบกน้ำหนักของศีรษะนานๆ
2.การยืดคอด้วยตนเอง เหมือนการบริหารอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้โดยง่าย คือ เอามือประสานกันที่ท้ายทอยแล้วค่อยๆออกแรงดัดกระดูกคอโดยก้ม  หรือก้มพร้อมกับปัดศีรษะไปในทิศทาง ที่หันไปไม่ได้เต็มที่ ทำเป็นจังหวะอย่างช้าๆจนรู้สึกเจ็บและเสียวเล็กน้อย ทำอย่างนี้ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที วันละ 5-10 ครั้ง
- ใช้มือออกแรงต้านด้านข้างศีรษะ ใช้มือขวากดศีรษะด้านขวา และออกแรงต้านศีรษะไปที่มือขวา ซึ่งทำเหมือนกันทั้งซ้ายและขวา

3.การนวดกล้ามเนื้อรอบคอการนวดร่วมกับ น้ำมันสมุนไพร จะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบคอผ่อนคลายลดอาการตึงได้
4.การประคบน้ำร้อน น้ำแข็ง  เมื่อมีอาการปวดคอ ในระยะวันแรกอาจใช้น้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกวางบริเวณที่ปวดหรือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาประคบไว้10-15 นาที ซึ่งจะช่วยอาการปวดได้

การบำบัดผู้ปวดคอหรือปวดสะบัก
1.ประคบด้วยความร้อน ควรประคบด้วยผ้าชุบน้ำร้อน (พอทน) บริเวณกล้ามเนื้อที่เจ็บหรือกดแล้วเจ็บ ประมาณ15 นาที
2.บีบนวดบริเวณกล้ามเนี้อที่ปวดหรือที่กดเจ็บ การนวดนั้นควรใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือกดลงไปอย่างช้าๆค้างไว้ประมาณ30นาที แล้วค่อยคลายแรงที่กดออก ทำสลับกันไป2-3ครั้ง ข้อสำคัญควรนวดให้ถูกจุดเจ็บ 
3.พยายามหลีกเลี่ยงการทำงานหนักๆ และเว้นอิริยาบถใดๆที่ทำให้อาการนั้นปวดขึ้นมา
4.ทาน้ำมันสมุนไพรเพื่อลดอาการปวด